บ้านป่าเหียง ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน

บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และค้นหาข้อมูลต่างๆของหมู่บ้านป่าเหียง

กฏและระเบียบต่างๆของหมู่บ้าน

                                      กฎระเบียบของหมู่บ้านป่าเหียง
       เพื่อให้การบริหารงานหมู่บ้านป่าเหียง หมู่ที่7 ตำบลสถาน อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ชุมชนเกิดกระบวนการที่มีส่วนร่วมและทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาหมู่แบบพึ่งพาตัวเองในอนาคตชาวบ้านป่าเหียงทุกหลังคาเรือนจึงพร้อมใจกันวางระเบียบข้อบังคับหมู่บ้านและพร้อมกันปฏิบัติตามเพื่อตอบสนองตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมของรัฐบาลเพื่อให้ชุมชนมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทางหมู่บ้านจึงวางระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
  ข้อที่ 1. ระเบียบและกฎหมู่บ้าน
1.1    ถ้าบุคคลหนึ่งบุคคลใดในหมู่บ้านจะปลูกบ้านหรือขอทะเบียนบ้านใหม่กรณีแยกครอบครัวใหม่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมหลังคาละ 100 บาท (นำเงินเข้ากลุ่มวัด)
1.2    ถ้ามีบุคคลนอกหมู่บ้านหรือหมู่บ้านอื่นย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านแล้วจะเข้าร่วมกิจกรรมด้านต่างๆภายในหมู่บ้านเช่น ฌาปนกิจศพ กองทุนที่เป็นของหมู่บ้าน กองทุนแม่และเด็ก กองทุน อพป. กองทุนแม่บ้าน และรับสิทธิเท่าเทียมกับ คนที่อยู่มาก่อนทุกอย่าง ยกเว้นกลุ่มปันผลที่มีการถือหุ้น จะต้องเสียค่าธรรม เนียมเข้าหมู่บ้านหลังคาเรือนละ 5,000 บาท ( นำเงินเข้ากลุ่มวัด )
1.3    กรณีที่บุคลภายในหมู่บ้านใครก็ตามที่ไปแต่งงานที่อื่นภายหลังจะกลับมาเข้าหมู่บ้านหรือมาอยู่หมู่บ้านโดยการนำคู่สมรสมาปลูกบ้านและขอบ้านเลขที่และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบหมู่บ้านเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท เท่ากับคนที่อยู่ในหมู่บ้านมาตลอดแต่คู่สมรสต้องสมัครฌาปนกิจสงเคราะห์ศพก่อนและต้องทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและร่วมพัฒนาหมู่บ้านปฏิบัติตามกฎระเบียบหมู่บ้านทุกอย่าง
1.4    กรณีตามข้อ1.3 นำบิดามารดาหรือญาติพี่น้อง คู่สมรสมาอยู่ด้วยภายในบ้านหลังเดียวกันจะร่วมฌาปนกิจสงเคราะห์ศพ หรือจะร่วมเป็นสมาชิกกองทุนต่างๆต้องเสียค่าสมัครเข้าร่วมกับหมู่บ้าน 1,000 บาท และได้ถือสิทธิเหมือนข้อ – 1.2 ทุกประการ
1.5    กรณีตามข้อ 1.3 ญาติ พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องตามมา แต่จะปลูกบ้าน คนละหลังภายในหมู่บ้านต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าหมู่บ้าน 5,000 บาท และถือสิทธิเหมือนข้อ 1.2 ทุกประการ
1.6    ถ้ามีครอบครัวหนึ่งครอบครัวใดหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดในหมู่บ้าน ทำการผลิต ค้าขาย หรือเสพยาเสพติด และก่อความรำคาญสร้างความ  เดือดร้อนให้กับคนภายในหมู่บ้าน ทาง  คณะกรรมการทราบ แล้วเรียก ตักเตือนแล้วทำการบันทึก ว่ากล่าวตักเตือนภายในหมู่บ้าน หากยัง ไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตาม ทางชาวบ้านทุกหลังคาเรือนจะไม่คบค้าสมาคมด้วย ไม่ว่าจะทางวัด พระเณร ด้านความช่วยเหลือด้านต่างๆ และไม่ให้ยืมของใช้ของกลุ่มภายในหมู่บ้านกรณีทำตัวเหมือนข้อ 1.6 ไม่ว่านักเรียน นักศึกษา ชาวบ้าน ทางผู้นำหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้านคณะกรรมการหมู่บ้านจะไม่เซ็นรับรองด้านต่างๆที่ทางภาครัฐต้องการให้เซ็นรับรองไม่ว่าในกรใดๆ
1.7    กรณีมีผู้ประกอบกิจการธุรกิจส่วนตัวในหมู่บ้านที่ได้ช่วยเหลือเด็กเยาวชนในหมู่บ้านหรือกลุ่มเสี่ยงมาทำงานด้วยและคอยอบรมสั่งสอนให้บุคคลเหล่านี้เป็นคนดีมีความรับผิดชอบต่อชุมชนสังคมทางหมู่บ้านจะให้สิทธิในการยืมเงินไปลงทุนประกอบกิจการเป็นกรณีพิเศษ(สามารถยืมได้มากว่าครอบครัวอื่นๆในหมู่บ้าน)
1.8    การเกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อย ภายในหมู่บ้านหรือนอกหมู่บ้านในงานต่างๆ ทำให้ภาพพจน์ของหมู่บ้านเสียหาย ทางหมู่บ้านจะปรับผู้ที่ก่อเหตุ 500 บาท และคู่กรณี 300 บาท ถ้าหากมีทรัพย์สินเสียหายก็จะพิจารณาตามผิดตามถูกและดำเนินคดีตามกฎหมาย
1.9    กรณีมีการทะเลาะวิวาทกันด้วยวาจาหรือหมิ่นประมาทถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่บ้านจะปรับคนละ 300 บาท และจะพิจารณากันไปตามผิดถูก ข้อเท็จจริงและพยาน
1.10    กรณีมีคนในหมู่บ้านเข้าไปลักทรัพย์หรือกระทำให้ทรัพย์คนอื่นเสียหายโดยเจตนา ในเวลาเจ้าของไม่อยู่หรือในยามวิกาล โดยไม่แจ้งให้เจ้าของสถานที่รับทราบก่อน จะปรับเป็นสองเท่าของทรัพย์สินที่เสียหาย ถ้ามีความจงใจกระทำให้เสียหายจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และตัดความช่วยเหลือทางหมู่บ้าน
1.11    กรณีการใช้อาวุธปืน หรือยิงปืนไม่มีสาเหตุอันควร ไม่ว่าเวลากลางวันหรือกลางคืน หมู่บ้านจะปรับนัดละ 300 บาท ถ้าเป็นปืน อพป.จะยึดปืนคืนให้บุคคลที่ประพฤติดีต่อไป
1.12    กรณีคนในหมู่บ้านไม่เข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน(ขาด)ติดต่อเกิน 5 ครั้งใน 1 ปีจะไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือจากทางหมู่บ้านไม่มีสิทธิ์กู้ยืมเงินจากกองทุนต่างๆในหมู่บ้าน
ข้อที่ 2. ว่าด้วยระเบียบสมาคมฌาปนกิจศพภายในหมู่บ้าน
2.1      บุคคลที่มีบ้านเรือนและมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตหมู่บ้านป่าเหียง ตำบลสถาน อำเภอปัว จังหวัดน่าน จะต้องสมัครเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ศพของหมู่บ้าน และทำกิจกรรมทุกอย่างที่ผ่านการประชุมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม สมาชิกจะเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ และจะต้องสมัครเป็นสมาชิกเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 20 บาท และค่าสงเคราะห์ศพรายละ 10 บาท
2.2    การสมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องเป็นคนที่อยู่ภายในเขตหมู่บ้าน มีบ้านเรือนที่ถาวรและต้องจะอยู่ 1 ปีขึ้นไปซึ่งพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบหมู่บ้านและเงื่อนไขสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ศพของหมู่บ้านทุกอย่างที่ชาวบ้านยอมรับ
2.3    เมื่ออยู่ครบ 1 ปี แต่ยังไม่สมัครและเมื่อเกิน 1 ปีมาสมัครภายหลังจะปรับคืนย้อนหลังปีละ 100 บาท
2.4    สมาชิกที่อาศัยในหมู่บ้านหากออกไปทำงานที่อื่น แล้วได้แต่งงานและได้พาคู่สมรสจากที่อื่นเข้ามาอยู่บ้าน ถ้าครอบครัวเดิมที่อยู่ทางบ้านยังส่งค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ศพและทำกิจกรรมร่วมกับทางหมู่บ้านมาโดยตลอดให้ถือว่าคนนั้นยังไม่ขาดจากการเป็นสมาชิก แต่คู่สมรสจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ศพโดยเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 20 บาท
2.5    จากข้อ 2.4 ถ้าคู่สมรสได้พาญาติ เช่น บิดา มารดา น้อง พี่ ป้า น้า อา หลาน เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจะต้องเสียค่าสมัครเป็นสมาชิกรายละ 1,000 บาทแล้วต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบหมู่บ้านทุกอย่าง
2.6    กรณีที่สมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ศพ คนใดขาดส่งเงินสงเคราะห์ศพ 3 รายติดต่อกันและขาดการทำงานบ้านศพที่มี 3 วัน ติดต่อกันแล้วทางหมู่บ้านปรับ ถ้าไม่ยอมเสียค่าปรับทางหมู่บ้านจะตัดออกจากการเป็นสมาชิกและไม่คืนเงินให้
2.7    ถ้าสมาชิกเสียชีวิตลง ทุกครอบครัวภายในหมู่บ้านจะต้องปฏิบัติดังนี้
•    นำเงินมาออกวันที่มีการประกาศแจ้งให้ทราบ
•    นำข้าวสาร ฟืน ตามรอบคณะกรรมการจะแจ้งให้ทราบ
•    นอนเฝ้าศพตามรอบหมวดที่แบ่งไว้ แล้วให้นอนเฝ้าเฉพาะบ้านที่มีศพเท่านั้น ถ้าขาดนอนเฝ้าปรับคืนละ 100 บาท เวลานอน 1 ทุ่ม – 6 โมงเช้า(ถ้ามีเหตุจำเป็นให้แจ้งคณะกรรมการหมู่บ้าน )
2.8    การทำงานที่ไม่ใช่วันเผาศพ เช่น สร้างเรือนหอผ้า จะหมุนเวียนไปตามรอบ โดยจะให้ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ช่วย มาดูแล ถ้าสมาชิกที่ถึงรอบเวรขาด จะปรับวันละ 100 บาท เวลาทำงาน 8.00 น. – 17.00 น. ไปเอาไม้ตอนเช้า (กรณีจำเป็นเร่งด่วนยากจนจะต้องใช้แรงงานทั้งหมดในหมู่บ้าน คณะกรรมการจะหารือกับเจ้าภาพหรือญาติ จะแจ้งให้ทราบ)
2.9    ในวันที่นำศพไปฌาปนกิจที่ป่าสุสานต้องไปร่วมกันทั้งหมดทุกหลังคาเรือน หลังคาเรือนละ 1 คน เริ่มทำงาน 8.00 น. จนถึงเสร็จงานที่บ้านศพ ให้ช่วยเหลือกันเหมือนเป็นเจ้าภาพร่วมกันทั้งหมู่บ้าน ให้หัวหน้าหมวดเช็คคนที่ขาดหรือไม่ขาด ถ้ามีการขาดให้นำเข้าที่ประชุมจะปรับตามมติ ไม่มีการซ่อมงาน (ยกเว้นกรณีจำเป็น)
2.10    ถ้ามีการทำบุญกระดูก/ทำบุญร้อยวันเพื่ออุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ห้ามมีการจุดบั้งไฟทุกชนิดที่ในบริเวณวัดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปตกลงใส่หลังคาบ้านของคนในหมู่บ้านถ้าฝ่าผืนปรับครั้งละ 500 บาท (นำเงินเข้ากองทุนรวมหมู่บ้าน)
2.11    ในการเก็บโต๊ะ เต็นท์ เก้าอี้และสิ่งของต่างๆในวันที่เสร็จงานหรือวันที่เตรียมงาน ให้หมวดที่มีงานศพเป็นหลักในการยืมหรือเก็บส่งของให้เรียบร้อย หมวดอื่นแล้วแต่จะช่วยเหลือ(หัวหมวดดูแล)
2.12    กรณีในหมู่บ้านมีงานศพ ห้ามไม่ให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณบ้านศพนั้น ดื่มเหล้า ร้องรำทำเพลงและเปิดเครื่องเสียงดัง เพราะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ถ้าฝ่าฝืนปรับหลังคาเรือนนั้น 500 บาท (ยกเว้นการเตรียมงานมาก่อนและมีกำหนดเวลาชัดเจน)
2.13    กรณีบางครอบครัวในหมู่บ้านไม่ให้ความร่วมมือกับหมู่บ้านไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นมติเสียงส่วนใหญ่ในการพัฒนาหมู่บ้านและวัดจะเข้าเพียงฌาปนกิจกิจศพอย่างเดียวหรืออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เมื่ออยู่ในหมู่บ้านเดียวกันให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบหมู่บ้านเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบทางสังคม ถ้าไม่ปฏิบัติ ทางชาวบ้านจะไม่คบค้าสมาคมด้วยและตัดออกจากสมาชิกฌาปนกิจกิจศพและงดช่วยเหลือด้านต่างๆในหมู่บ้าน
2.14    การขาดความร่วมพัฒนาหรือกิจกรรมที่ผ่านการประชุมหมู่บ้านมีมติออกมาจะต้องปรับวันละ 100 บาท ครึ่งวัน 50 บาทตามมติ แรงงาน 1 ครอบครัวต้องมีส่วนร่วม ไม่ว่าผู้สูงอายุ วัยกลางคน หนุ่มสาว ผู้หญิงแม่บ้าน มีสิทธิใช้แรงงานทดแทนกันได้
2.15    การทำบุญร้อยวันของญาติๆห้ามมีการจุดบั้งไฟในการประกอบพิธีโดยเด็ดขาดเหตุผลอาจขึ้นไปตกใส่บ้านบุคคลอื่นได้รับความเสียหายและเป็นอันตรายถ้ามีการผ่าฝืนปรับรายละ 1,000 บาท
ข้อที่ 3.  ว่าด้วยเรื่องการอนุรักษ์ป่าสงวนของหมู่บ้าน
3.1    ป่ายางทั้งสองแห่งชาวบ้านร่วมกับเจ้าหัวนาช่วยกันอนุรักษ์สำหรับป่าแนวงิ้วผา ป่าแนวห้วยโปร่งสามารถนำมาใช้งานได้ ถ้ามีต้นไม้ล้มตาย ล้มด้วยพายุทางหมู่บ้านและเจ้าของหัวนาจะต้องแบ่งไม้กันคนละครึ่ง เข้าหมู่บ้านครึ่งหนึ่งเจ้าหัวนาเอาไปครึ่งหนึ่งป่าแนวงิ้วผาและป่าห้วยโปร่ง ให้นำมาใช้เฉพาะทำเรือนทานในงานศพเท่านั้น ถ้ามีไม้ล้มตายชาวบ้านไปพบให้มาแจ้งคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อขอซื้อเอาไปใช้ประโยชน์( ขายนำเงินเข้าหมู่บ้านต่อไป )
3.2    ถ้ามีครอบครัวใดฝ่าฝืนลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนของหมู่บ้านเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือค้าขาย ถ้าจับได้จะปรับและดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้ามีบุคคลใดพบเห็นการลักลอบตัดไม้แล้วนำมาแจ้งคณะกรรมการไปจับกุมผู้ลักลอบจะได้สินบนครึ่งหนึ่งของค่าปรับและจะเก็บเป็นความลับไม่เปิดเผย สำหรับผู้ที่ถูกจับจะไม่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือใดๆจากทางหมู่บ้านทั้งทางด้านเงินกู้ของหมู่บ้านและเงินช่วยเหลือ ถ้ามีการงานพิธีจะไม่ให้ยืมของใช้ของหมู่บ้าน
ข้อที่ 4.  ระเบียบว่าด้วยกองทุนหมู่บ้านหรือกลุ่มต่างๆเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจน การเอารัดเอาเปรียบทางสังคม กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ดังนี้
4.1    กองทุนต่างๆในหมู่บ้านทุกกองทุนที่มีให้นำมารวมกันบริหารเป็นหนึ่งกองทุนให้ใช้ชื่อว่า(กองทุนรวมบ้านป่าเหียง)ให้ปล่อยกู้ไม่เกินร้อยละ 12 บาทต่อปีและการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้แก่ราษฎร
4.2    เมื่อสิ้นปีงบประมาณ  วันที่ 31 ธันวาคม  ของทุกปี ผู้นำหมู่บ้าน/ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องให้กรรมการการเงินการคลังหมู่บ้านรายงายสถานะการเงินของกองทุนต่างๆให้ประชาชนรับทราบ
4.3    การรายงานสถานะการเงินของหมู่บ้าน/กลุ่มต่างๆทุกกองทุนจะต้องไม่เกิน  60 วันหลังสิ้นปี
ข้อที่ 5.  เรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับวัดและคนที่อยู่วัดเพื่อเป็นการสืบทอดพุทธศาสนา
5.1    ครอบครัวใดก็ตามที่มีบุตรชายและเรียนชั้นป.6และจะเรียนต่อทางโลกภายนอกจะต้องจับฉลากเพื่อคัดเอาเด็กมาบวชและศึกษาต่อทางธรรมและสามารถเรียนทางโลกไปพร้อมๆกันเพื่อป้องกันพระเณรขาดวัดและการสืบทอดพระพุทธศาสนา
5.2    กรณีตามข้อ 1. ครอบครัวใดที่มีบุตรชายสองคนถ้าผู้พี่จับฉลากได้และได้บวชคนน้องต่อไปยกเว้นไม่ต้องร่วมจับฉลาก
5.3    กรณีที่คนพี่จับฉลากแล้วไม่ได้บวช  ปีต่อไปคนน้องต้องมาจับฉลากอีก
5.4    กรณีที่คนพี่ต้องจับฉลากแต่ทางญาติของทุกคนที่จะจับฉลากต่างรวบรวมเงินเพื่อให้คนอื่น
    บวชแทน ปีต่อไปคนน้องต้อง มาจับฉลากอีก
5.5    กรณีที่เด็กจับฉลากได้แต่ทาง พ่อแม่ ญาติไม่ยอมให้บวชหรือบวชแล้วแต่อยู่ไม่ครบสาม
    พรรษาหรือกระทำการใดที่เป็นการเสื่อมเสียให้ทางวัดหรือทางหมู่บ้าน เช่น เสพยาเสพติด
    ค้าขายยาเสพติด กระทำสิ่งผิดกฎหมายหรือวินัยสงฆ์ ทางคณะกรรมการจับหลักฐานได้ ปรับ
    รายละ5,000บาท( สำหรับผู้ที่จับฉลากได้แต่ไม่บวชต้องปรับนำเงินเข้าบริจาควัด5,000 บาท )
5.5    กรณีบวชแล้วให้จำพรรษาครบ 3 ปี ถ้าครบ 3 ปีแล้วมีความประสงค์ที่จะสึกมาเรียนต่อทางโลกสามัญ ทางหมู่บ้านไม่ห้าม หรือจะอยู่ต่อก็ยินดี แต่ถ้าบวชแล้วจำพรรษาไม่ครบสามพรรษาแล้วสึกหรือทำผิดวินัยสงฆ์หรือกฎหมายบ้านเมืองเป็นเหตุจำเป็นต้องสึกไม่ครบสามพรรษาหมู่บ้านจะปรับพรรษาละ3,000บาท
5.6    ข้อยกเว้นสำหรับพระหรือเณรที่อยู่วัดไม่ได้ เช่น เจ็บป่วยไปรักษาแล้วไม่หาย แต่ไม่ใช่การแกล้งป่วยเพื่อให้พ้นจากการเป็นพระหรือเณร กรณีนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้านในสมัยนั้นๆจะพิจารณานำเข้าที่ประชุมหมู่บ้านเพื่อขอมติเห็นชอบ
5.7    กรณีที่ครอบครัวมีบุตรหลานจับฉลากได้บวชพร้อมที่จะอยู่วัดตามกำหนดในมติหมู่บ้านทุกอย่างทางหมู่บ้านทุกหลังคาเรือนพร้อมที่จะออกเงินช่วยเหลือครอบครัวที่บวช 100 บาทต่อครั้งที่บวช (ถ้าบวชพร้อมกันสองรายจะเอาเงินทั้งหมดแบ่งกัน ) สำหรับเงินที่ออกหลังคาละ 100 บาทนั้นอาจปรับขึ้นได้ตามความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจตามมติที่ประชุมหมู่บ้าน และทางหมู่บ้านทุกครัวเรือนพร้อมที่จะช่วยเหลือในงานบวช
5.8    เมื่อมีผู้ที่เสียสละบวชอยู่ในวัดแล้ว การใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาระหว่างที่บวชเป็นพระเณร เช่น ค่าเทอม ค่ารถเหมา สมุดหนังสือตอนเปิดเทอม ค่ารักษาพยาบาลทางหมู่บ้านจะรับผิดชอบ ( ถ้าบางรายการจ่ายที่เกิดขึ้นโดยที่ผิดวินัยสงฆ์หรือกฎหมายบ้านเมือง ทางหมู่บ้านจะไม่รับผิดชอบ )
5.9    กรณีใน ปีใดมีเด็กจบ ป.6 หลายคน มีเด็กคนใดคนหนึ่งมีความประสงค์จะบวชให้เด็กรุ่นนั้นไม่ต้องจับฉลาก แต่ถ้าปีใดมีเด็กจบ ป.6 คนเดียวให้เด็กจับฉลากจะได้หรือไม่ได้ให้ถือปฏิบัติตามนั้น ไม่มีข้อยกเว้น ( ถ้าไม่ยอมบวชให้นำเงินบริจาควัด 5,000บาท )
5.10    ห้ามเยาวชน บุคคลภายนอกเข้าไปมั่วสุมในวัด เช่น ไปกิน ไปนอน กินเหล้า เสพยา เล่นการพนันภายในวัดถ้าทางคณะกรรมการจับได้ปรับคนละ100บาทต่อครั้ง ไม่ว่าเป็นเพื่อนพระเณรก็ตาม
5.11    กรณีที่บวชเป็นพระแล้วไม่ตั้งใจเล่าเรียนศึกษาและทำผิดวินัยสงฆ์ ผิดกฎหมาย ทางหมู่บ้านจะตัดความช่วยเหลือทางด้านการศึกษาทั้งหมด      
           มติทั้งหมดที่บันทึกนี้ข้าพเจ้าราษฎรทุกคนทุกครอบครัวที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตปกครองและมีทะเบียนบ้านขึ้นอยู่กับบ้านป่าเหียง หมู่ที่ 7 ตำบลสถาน  อำเภอปัว  จังหวัดน่าน  ได้ร่วมกันออกระเบียบเพื่อจะถือปฏิบัติตามมติหมู่บ้านทุกครัวเรือน  ดังนั้นครอบครัวที่จะย้ายเข้ามาอยู่ภายหลังจะต้องถือปฏิบัติตามระเบียบและมติหมู่บ้านนี้ด้วย

ประกาศใช้ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2539
       นายสุจินต์ จิตอารี
    ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าเหียง

ไม่มีความคิดเห็น: